การตลาดออนไลน์ปี 2025 กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากเทคโนโลยีใหม่ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น นักธุรกิจที่ต้องการอยู่รอดและเติบโตจำเป็นต้องเข้าใจเทรนด์สำคัญ และนำมาปรับใช้กับกลยุทธ์ของตนอย่างเหมาะสม

1

การใช้ AI Marketing เป็นแกนหลัก

AI ถูกนำมาใช้ทั้งในการสร้างคอนเทนต์ วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค และออกแบบแคมเปญส่วนบุคคล

เครื่องมืออย่าง ChatGPT, Google Gemini และ AI Ads Platform ช่วยทำให้ธุรกิจทำงานเร็วขึ้น

ผู้ประกอบการควรเรียนรู้การใช้งาน AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน

ร้านค้าออนไลน์ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และเสนอสินค้าที่ตรงกับความสนใจแต่ละคนแบบเรียลไทม์
2

การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย Data & Privacy First

กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น PDPA และ GDPR มีผลต่อการเก็บและใช้ข้อมูล

ปี 2025 จะเน้นการใช้ Zero-Party Data (ข้อมูลที่ลูกค้าเต็มใจให้) มากขึ้น เช่น แบบสอบถามหรือการสมัครสมาชิก

การสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือจะเป็นหัวใจสำคัญ

3

Short-form Video ครองทุกแพลตฟอร์ม

คอนเทนต์วิดีโอสั้น (15–60 วินาที) ยังคงเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุด

TikTok, Instagram Reels และ YouTube Shorts เป็นช่องทางหลัก

แบรนด์ที่สร้างวิดีโอให้ทั้งสนุก มีสาระ และกระตุ้นการซื้อ จะได้เปรียบ

4

การเติบโตของ Social Commerce

การซื้อขายสินค้าเกิดขึ้นในโซเชียลมีเดียโดยตรง ไม่ต้องออกไปยังเว็บไซต์

ฟีเจอร์ Live Shopping และ In-app Checkout ของ TikTok Shop และ Facebook Marketplace ได้รับความนิยม

นักธุรกิจควรออกแบบประสบการณ์การซื้อที่ “จบในแอปเดียว”

5

Voice Search & Smart Assistants

ผู้บริโภคใช้ Google Assistant, Siri, Alexa ในการค้นหามากขึ้น

การทำ Voice SEO เช่น ใช้ประโยคภาษาพูด คำถามแบบธรรมชาติ จะช่วยเพิ่มการมองเห็น

ธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหาร และบริการใกล้ตัว ควรปรับเนื้อหาให้รองรับการค้นหาด้วยเสียง

6

การตลาดแบบ Sustainability & Green Marketing

ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม

แบรนด์ที่สื่อสารเรื่องความยั่งยืน เช่น การใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก การปล่อยคาร์บอนต่ำ จะได้ใจลูกค้า

คอนเทนต์ควรแสดงหลักฐานจริง ไม่ใช่แค่คำโฆษณา (หลีกเลี่ยง Greenwashing)

7

การสร้าง Personalized Customer Experience

ลูกค้าในปี 2025 คาดหวังประสบการณ์ที่ “เฉพาะตัว”

Email Marketing, Remarketing และ Dynamic Ads จะถูกปรับตามพฤติกรรมแต่ละบุคคล

ยิ่งธุรกิจปรับประสบการณ์ได้ใกล้เคียงกับความต้องการจริง ยิ่งสร้างยอดขายและความภักดีได้มาก

8

การใช้ AR/VR Marketing

เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) เข้ามาใน e-commerce และการท่องเที่ยว

ลูกค้าสามารถลองสินค้าเสมือนจริง เช่น การลองเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน หรือการลองเสื้อผ้าผ่านมือถือ

แบรนด์ที่ลงทุนด้านนี้จะสร้างความแตกต่างและเพิ่มโอกาสปิดการขาย

9

การเติบโตของ Micro & Nano Influencer

ผู้ติดตามจำนวนน้อย แต่มีอัตราการมีส่วนร่วม (Engagement Rate) สูง

ผู้บริโภคเชื่อถือคำแนะนำจากคนจริงที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า “ดาราใหญ่”

ปี 2025 จะเห็นแบรนด์ทำงานกับ Influencer หลายคนเพื่อเข้าถึงกลุ่มย่อยได้ลึกกว่าเดิม

10

Omnichannel Marketing ที่ผสานออนไลน์–ออฟไลน์

ลูกค้าเชื่อมโยงประสบการณ์การซื้อระหว่าง เว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย, แอปพลิเคชัน และหน้าร้าน

นักธุรกิจต้องทำให้ข้อมูลและประสบการณ์เป็นหนึ่งเดียว เช่น ซื้อออนไลน์แต่รับสินค้าที่หน้าร้านได้

การเก็บข้อมูลลูกค้าและนำมาประยุกต์ใช้ จะเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ

คำถามที่พบบ่อย

AI Marketing คืออะไร และธุรกิจขนาดเล็กจะใช้ได้ไหม?
AI Marketing คือการใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยในการทำการตลาด เช่น สร้างคอนเทนต์ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และออกแบบโฆษณาเฉพาะบุคคล ธุรกิจขนาดเล็กใช้ได้ เริ่มจากเครื่องมือฟรีอย่าง ChatGPT สำหรับเขียนคอนเทนต์ หรือ Canva AI สำหรับสร้างภาพ
วิดีโอสั้นควรยาวเท่าไหร่ และสร้างเนื้อหาแบบไหน?
ความยาว 15-60 วินาที เนื้อหาควรเข้าใจง่าย สนุก และมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น Tips & Tricks, Behind the scenes, หรือการแสดงผลิตภัณฑ์แบบสร้างสรรค์
Social Commerce คืออะไร และแตกต่างจาก E-commerce อย่างไร?
Social Commerce คือการซื้อขายสินค้าในโซเชียลมีเดียโดยตรงไม่ต้องไปยังเว็บไซต์ ลูกค้าสามารถดู สั่งซื้อ และชำระเงินในแอปเดียว ทำให้กระบวนการซื้อง่ายและรวดเร็วกว่า
ธุรกิจขนาดเล็กควรเริ่มจากเทรนด์ไหนก่อน?
แนะนำเริ่มจาก Short-form Video และ AI สำหรับสร้างคอนเทนต์ เพราะต้นทุนต่ำแต่ผลตอบแทนสูง จากนั้นค่อยๆ เพิ่ม Personalization และ Social Commerce