7 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ Branding ให้ลูกค้าจดจำได้ แบบไม่ซ้ำธุรกิจอื่น

สร้างแบรนด์

เลือกหัวข้อเนื้อหา

ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ (Branding) ก่อนอื่นเลย เพราะอะไรธุรกิจควรสร้างแบรนด์ เพราะ “แบรนด์” ถูกสร้างบนความรู้สึก สินค้าและบริการสร้างบนเหตุผล ประโยคนี้สะท้อนให้เห็นมุมมองทางการตลาด หรือ การทำการตลาดออนไลน์อย่างเห็นได้ชัดเลยนะคะ ซึ่งสินค้าและบริการทุกแบรนด์นั้น ต่างมีเหตุผล มีจุดขายที่ต่างกัน เพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้า จนเกิดความต้องการซื้อสินค้า 

เช่นเดียวกันกับการสร้างแบรนด์ในการทำการตลาดออนไลน์ ต้องทำให้สินค้าและบริการเป็นที่จดจำของลูกค้าให้ได้ และก็ต้องมีภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์ มีแนวคิด สโลแกน ที่สื่อสารไปยังลูกค้า และลูกค้าจดจำได้ทันที เมื่อมองเห็นโลโก้ ชื่อแบรนด์ ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ที่แบรนด์ต้องการนำเสนอด้วยนะคะ ซึ่งผ่านขั้นตอนการสร้างแบรนด์

วันนี้ SME D Plus พร้อมมอบความรู้เกี่ยวกับ ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ (Branding) ธุรกิจออนไลน์ให้ปังกว่าเดิม! มาฝากกันถึง 7 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ (Branding) จะมีขั้นตอนอะไรบ้างนั้น สามารถอ่านเพิ่มเติมในบทความนี้ได้เลยนะคะ 

 7 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ (Branding)

การสร้างแบรนด์ (Branding) ถือเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่สำคัญต่อการทำการตลาดออนไลน์ด้วยเช่นกันนะคะ ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ซึ่งการสร้างแบรนด์ก็เพื่อ สื่อสารแบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของลูกค้า จนสามารถกระตุ้นความสนใจ จนในที่สุดลูกค้าก็ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการของแบรนด์ หลัก ๆ มี การสร้างแบรนด์มีด้วยกัน 7 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์

วิธีการสร้างแบรนด์ Branding
ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ให้ธุรกิจออนไลน์ปังกว่าเดิม

 

  • ตั้งเป้าหมายและตีโจทย์ของแบรนด์ให้ชัดเจน (Mission)
  • ศึกษากลยุทธ์ ธุรกิจคู่แข่ง (Competitive Strategies)
  • สร้างตัวตนให้แบรนด์ (Brand Identity)
  • สร้างกลุ่มเป้าหมายลูกค้า (Target Customer)
  • ออกแบบแบรนด์ (CI Branding
  • สร้างคอนเท้นต์ (Content Marketing)
  • สร้างช่องทางบริการลูกค้า (Brand Channel)   

 

ตั้งเป้าหมายและตีโจทย์ของแบรนด์ให้ชัดเจน (Mission)

ขั้นตอนการสร้างแบรนด์

ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 1 : การสร้างแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เพื่อสินค้า แบรนด์เพื่อบริการ หรือเพื่อในการทำการตลาดออนไลน์ด้วยนั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ วางเป้าหมายแบรนด์ให้ชัดเจน พร้อมสื่อสารให้กลุ่มลูกค้ารับรู้ มีจุดเด่นอะไรบ้าง ทำให้ลูกค้านึกถึงแบรนด์ แตกต่างจากธุรกิจคู่แข่งรึยัง และต้องตีโจทย์ของแบรนด์ให้แตกด้วย เพื่อการสร้างแบรนด์จะได้ไปในทางเดียวกันและตรงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะต้องตอบโจทย์แบรนด์ของธุรกิจให้ได้ด้วยนะคะ 

ในส่วนของเจ้าของธุรกิจ จะต้องตีโจทย์ให้แตก! อย่างเช่นหัวข้อต่อไปนี้นะคะ 

  • ทำไมถึงเลือกทำธุรกิจนี้
  • เป้าหมายของธุรกิจคืออะไร
  • จุดขายของธุรกิจคืออะไร
  • จุดอ่อนของธุรกิจ คืออะไร
  • คู่แข่งขันในตลาดของกลุ่มธุรกิจ
  • กลุ่มลูกค้า คือใครบ้าง
  • ธุรกิจจะเข้าถึงลูกค้าช่องทางไหนได้บ้าง 

ศึกษากลยุทธ์ ธุรกิจคู่แข่ง (Competitive Strategies)

ขั้นตอนการสร้างแบรนด์

ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 2 : การสร้างแบรนด์ ต้องผ่านการวิเคราะห์ วางแผน รวบรวมข้อมูลของกลุ่มลูกค้ามาแล้วด้วยนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ศึกษาข้อมูลหรือกลยุทธ์ของธุรกิจคู่แข่ง ซึ่งจำเป็นอย่างมากในการสร้างแบรนด์ และเป็นอีกหนึ่งวิธีในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ที่ธุรกิจใดก็ตามที่ต้องการสร้างแบรนด์ จะต้องศึกษากลยุทธ์ธุรกิจคู่แข่งด้วยนะคะ 

ดังสุภาษิตไทยที่ว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” เช่นกันกับในกลุ่มธุรกิจซึ่งการทำการตลาดออนไลน์  ธุรกิจที่อยากสร้างแบรนด์ ก็ต้องศึกษากลยุทธ์การขาย ผลิตภัณฑ์แบรนด์ การวางแบรนด์ กลุ่มลูกค้า โปรโมชั่นต่าง ๆ ของคู่แข่ง เพื่อนำมาพัฒนากลยุทธ์ของแบรนด์ สร้างจุดขายที่แตกต่างจากคู่แข่ง และนำ SWOT Analysis ช่วยวางแผนให้กับเป้าหมายของแบรนด์ได้อีกด้วยนะคะ ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ซึ่งช่วยวิเคราะห์ด้านจุดแข็ง, จุดอ่อน, โอกาส และอุปสรรคของธุรกิจ  

                    ตัวอย่าง การใช้กลยุทธ์ SWOT Analysis มาปรับใช้ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์

  •  จุดแข็ง (Strengths) : สำเร็จรูป,ไม่เสียเวลา,ความเสี่ยงต่ำ
  •  จุดอ่อน (Weaknesses) : คาดเดากำไรไม่ได้,ลงทุนมาก,ขาดอิสระ
  •  โอกาส (Opportunity) : ความเชื่อมั่นของนักลงทุน, การขยายไปต่างจังหวัด, การขยายไปต่างประเทศ
  •  อุปสรรค (Threats) : การแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น, บริษัทแม่ดูแลไม่ทั่วถึง, คิดว่าประสบความสำเร็จแล้ว 

สร้างตัวตนให้แบรนด์ (Band Identity) 

ขั้นตอนการสร้างแบรนด์

 

ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 3 : ตัวตนของแบรนด์ เปรียบเสมือนจุดขาย ที่แบรนด์มอบให้ลูกค้าเพื่อสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์ของธุรกิจคุณได้นะคะ แบรนด์ที่ดีมีบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น ซึ่งอาจจะจดจำแบรนด์ผ่านจาก ชื่อแบรนด์, LoGo, Packaging, หรือ สโลแกน และกิจกรรมทางสังคม (CSR) นะคะ 

ซึ่งในการทำการตลาดออนไลน์  การสร้างตัวตนให้แบรนด์ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพราะถ้าลูกค้าจดจำบุคลิก เอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ ไม่ว่าจะเป็นบริการขาย ในช่องทางออฟไลน์ (offline) ออนไลน์ (Online) หรือวางขายในห้างสรรพสินค้า จะช่วยให้ลูกค้าเกิดความสนใจและนึกถึงเลือกใช้สินค้าหรือบริการของแบรนด์ก่อน ตัวอย่างเช่น 

                            Logo : ซอสปรุงอาหาร มีรูปเด็กแก้มยุ้ย ลูกค้าก็จะนึกถึงแบรนด์ ตราเด็กสมบูรณ์ 

                            สโลแกน : ผู้หญิงอย่าหยุดสวย แบรนด์ Oriental Princess

 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 3  : สร้างตัวตนแบรนด์ ผ่านอะไรได้บ้าง ?

  1. ตราสินค้า หรือ Logo
  2. โทนสีของแบรนด์ 
  3. ลักษณะบรรจุภัณฑ์ (Packaging)
  4. สโลแกน (Slogan)
  5. ลักษณะบริการ (Service)
  6. บรรยากาศภายในร้าน
  7. สินค้าของแบรนด์ 
  8. เป้าหมายแบรนด์ (Brand Value)

สร้างกลุ่มลูกค้า (Target Customer)

ขั้นตอนการสร้างแบรนด์

 

ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 4 : “มีวันนี้ไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า” ประโยคนี้อาจพบเห็นได้เมื่อแต่ละแบรนด์ธุรกิจขอบคุณลูกค้าที่เลือกใช้บริการ ซึ่งสิ่งนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่า การวางเป้าหมายกลุ่มลูกค้าที่ตรงกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์ อย่างชัดเจนก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ต่อธุรกิจ 

ในการทำการตลาดออนไลน์  แบรนด์ก็คือตัวตนของธุรกิจคุณ พร้อมจะสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าที่สนใจในบริการของแบรนด์ ยิ่งแบรนด์สินค้าตรงกับความต้องการสินค้าของกลุ่มลูกค้ามากเท่าไหร่ ธุรกิจของคุณก็จะอยู่เหนือกว่าคู่แข่งอย่างแน่นอนนะคะ

 วิธีสร้างกลุ่มเป้าหมาย (Target Customer) 

เพิ่มการรู้จักกลุ่มเป้าหมายลูกค้าและเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า ซึ่งสามารถสร้างกลุ่มลูกค้า ได้ตามข้อมูลด้านล่าง

  1. ประเภทของแบรนด์สินค้า
  2. ช่วงอายุ (วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน วัยกลางคน และผู้สูงอายุ)
  3. เชื้อชาติ
  4. รายได้ต่อกำลังซื้อของลูกค้า ( วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน วัยกลางคน และผู้สูงอายุ )
  5. พฤติกรรม (สั่งซื้อออนไลน์, ชอบดูรีวิวสินค้าก่อนซื้อ)
  6. ความสนใจ (กีฬา, ฟิตเนส, เสื้อผ้า)
  7. สถานที่/พื้นที่ (อำเภอ,สถานที่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว )
  8. ช่องทางสื่อสาร (Social Media : Facebook , Line OA, Tiktok)

ซึ่งในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ การสร้างกลุ่มเป้าหมายนั้น สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดนะคะ อาจตามเทรน และความสนใจในสถานการณ์นั้น ๆ ด้วยนะคะ แล้วก็ขึ้นอยู่ข้อมูลด้านต่าง ๆ อย่างเช่น ความสนใจ สถานที่ ช่องทางการรับข้อมูลของกลุ่มลูกค้าด้วยนะคะ  

ออกแบบแบรนด์ (CI Branding )

ขั้นตอนการสร้างแบรนด์

ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 5 :การออกแบบแบรนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งวิธีในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ด้วยเช่นกันนะคะ ก่อนอื่นเลย Brand CI คืออะไร การสร้างแบรนด์หลัก ๆ จะมีองค์ประกอบอยู่ด้วยกัน 2 ส่วนนะคะ 

ส่วนที่ 1 Brand Concept 

เปรียบเสมือน แนวคิดของแบรนด์ เรื่องราว รวมไปถึงจุดเด่นต่าง ๆ ที่แบรนด์อยากนำเสนอ แบรนด์ต้องการสื่ออะไรบ้าง เพื่อให้ลูกค้ารับรู้

ส่วนที่ 2 Brand Design

การออกแบบแบรนด์ จะต้องสื่อสารตัวตนของแบรนด์ได้ เพื่อให้จดจำในสายตาของลูกค้าได้นะคะ  ซึ่งในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ (Branding) และการออกแบบแบรนด์เริ่มออกแบบตั้งแต่ 

1.โลโก้ (Logo)

  • ลักษณะโลโก้ที่สามารถใช้ได้ ทั้งแบบสี แบบโมโนเทน 
  • ขนาดของโลโก้ นำไปปประกอบงานออกแบบอื่น ๆ ได้ด้วย 
  • สีพื้นหลังโลโก้ 

2.การเลือกใช้ฟ้อนต์ (Font) ประจำเบรนด์ 

  • Font เหมาะกับประเภทธุรกิจ
  • เลือก Font เหมาะกับแนวคิดของแบรนด์และบุคลิกแบรนด์
  • Font ควรมี 2 ภาษา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ สามารถนำไปใช้ในงานอาร์ต ที่ต้องมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เช่น ใช้ในเว็บไซต์ โบรชัวร์ โปสเตอร์
  • Font ควรมีทั้งตัวหนา และ ตัวบาง เพื่อใช้สำหรับ Headline/Title เลือกฟ้อนต์ที่สื่อความเป็นแบรนด์ ดึงดูด สะกดสายตาลูกค้าได้ และที่สำคัญไม่ซ้ำกับโลโก้แบรนด์อื่น ๆ ด้วยนะคะ

3.อารมณ์และความรู้สึกของแบรนด์ (Mood & Tone)

ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ Mood & Tone ช่วยสื่ออารมณ์ ความรู้สึก ของลูกค้าเมื่อได้สัมผัสกับแบรนด์ และจะต้องไปในทิศทางเดียวกันในทุกช่องทางการตลาดด้วยนะคะ เช่น แบรนด์มีความสุภาพ ความสุข ความร่าเริง ความเป็นธรรมชาติ ความเป็นนวัตกรรม

4.การเลือกใช้ธีมสี สีประจำแบรนด์

       การเลือกใช้ธีมสี โทนสี ประจำแบรนด์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ เพราะส่งผลโดยตรงต่อแบรนด์ ทั้งอารมณ์ ความรู้สึก ความน่าเชื่อถือ และสื่อถึงสินค้าของแบรนด์ด้วย ช่วยให้ลูกค้ารับรู้ได้ทันทีว่า แบรนด์ขายสินค้าอะไร และมีบริการแบบไหนด้วยนะคะ 

ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ : ตัวอย่างธีมสี โทนสีแบรนด์

  • สีม่วง (Purple) : สินค้างานศิลปะ           สื่อความเป็นผู้หญิง ศิลปิน ความหรูหรา
  • สีน้ำเงิน (Navy) : สินค้างานออกแบบ    สื่อความแข็งแรง ความสร้างสรรค์
  • สีฟ้า (Blue) : สินค้าแบบท่องเที่ยว         สื่อความรู้สึกฉลาดหลักแหลม ผ่อนคลาย
  • สีส้ม (Orange) : สินค้าแบบอาหาร         สื่อความรู้สึกกระตือรือล้น ความสนุกสนาน
  • สีเหลือง (Yellow) : สินค้าแบบแม่และเด็ก   สื่อความรู้สึกกระตือรือล้น ความสนุกสนาน
  • สีชมพู (Pink) : สินค้าแบบบิวตี้                   สื่อความรู้สึกอ่อนหวาน ความอ่อนโยน
  • สีเขียว (Green) : สินค้าแบบสุขภาพ           สื่อความรู้สึกธรรมชาติ สดชื่น ความบริสุทธิ์

5. ลายกราฟิกประจำแบรนด์

ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์  ลายกราฟิกแบรนด์ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งช่วยให้ดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้นะคะ แล้วในเมื่อแบรนด์มี ธีมสี หรือ ฟ้อนต์อยู่แล้วนั้น ทำไมในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ถึงต้องมีลายกราฟฟิกประจำแบรนด์ด้วยใช่ไหมคะ?

เพราะการเลือกใช้ธีมสี หรือ ฟ้อนต์ของแต่ละแบรนด์ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ นั้น อาจมีความคล้ายคลึงกัน และไม่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ฉะนั้นการทำการตลาดออนไลน์การมีลายกราฟิกประจำแบรนด์ ก็จะช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ จุดเด่นให้กับแบรนด์ซึ่งเพื่มการจดจำในสายตาลูกค้ามากยิ่งขึ้นด้วยนะคะ

สร้างคอนเท้นต์ (Content Marketing)

ขั้นตอนการสร้างแบรนด์

            ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 6 : การสร้างแบรนด์ สิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปด้วยก็คือ การทำการตลาดคอนเท้นต์ (Content Marketing)  การสร้างคอนเท้นต์ ก็เปรียบเสมือนบทความหรือข่าวสาร โปรโมทชั่นต่าง ๆ  ที่ทางแบรนด์ต้องการสื่อสารให้ลูกค้ารับรู้แบรนด์ 

ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ โดยแนวทางการสร้างคอนเท้นต์ : มีรูปแแบบที่เป็นประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมาย มีคุณค่ากับสังคม ไม่เน้นขายสินค้า แต่เน้นสร้างคุณค่าแบรนด์ให้กับสินค้า ซึ่งการสร้างคอนเท้นต์ และเลือกลงคอนเท้นต์ Platform ที่เหมาะสมด้วยนะคะ 

ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ตัวอย่างการสร้างคอนเท้นต์ เลือก Platform ที่เหมาะสม

  • บล็อกแบ่งบันข่าวสาร ความรู้ต่าง ๆ Story ของแบรนด์ ควรนำเสนอลงใน Platform รูปแบบเว็บไซต์ , Google My Business
  • โปรโมทสินค้า อัพเดทสินค้า หรือบริการใหม่ ๆ  ควรนำเสนอลงใน Platform รูปแบบ Social Media เช่น Line OA, Instagram, Facebook Page
  • สร้างกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับแบรนด์ ช่วยเพิ่มความสนใจของแบรนด์  ควรนำเสนอลงใน Platform รูปแบบ Social Media เช่น Line OA, Facebook Page

ซึ่งการสร้างคอนเท้นต์ ผ่านการทำการตลาดออนไลน์ด้วยนั้น ในทุก Platform ต้องรักษาแนวคิดของแบรนด์ (Brand Concept) เพื่อสร้างรูปแบบการสื่อสารที่มีทิศทางไปในแนวเดียวกันด้วยนะคะ สร้างอารมณ์ร่วม กระตุ้นการมีส่วนรวมกับลูกค้า และสร้างการรับรู้ สินค้า โปรโมทชั่น และบริการต่าง ๆ ร่วมทั้งลูกค้าสามารถปรึกษาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์ได้ด้วยนะคะ

สร้างช่องทางใหักับแบรนด์ เพื่อบริการลูกค้า (Brand Channel)

ขั้นตอนการสร้างแบรนด์

        ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 7 : เมื่อเริ่มสร้างแบรนด์ สร้างตัวตนของแบรนด์ สร้างกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์แล้วนั้น อีกหนึ่งในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ก็คือ สร้างช่องทางบริการลูกค้าหรือสร้างช่องทางขายไปยังกลุ่มลูกค้า ซึ่งจะต้องเลือกใช้ ช่องทาง หรือ Platform ที่ต้องตามกลุ่มเป้าหมาย และกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ต้องใช้บริการช่องทางนั้นด้วยนะคะ ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ 

ตัวอย่างช่องทางสร้างแบรนด์ ด้วยการทำการตลาดออนไลน์   

Own Media – ช่องทางนำเสนอบริการที่ลูกค้า

  • เว็บไซต์
  • Facebook Fanpage, Instagram 
  • TikTok
  • Twitter
  • Google Business Profile
  • Google Map SEO (Local SEO)

สรุป 7 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ Branding ธุรกิจออนไลน์ให้ปังกว่าเดิม!

ขั้นตอนในการสร้างแบรนด์  ในการทำการตลาดออนไลน์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่ง SME D Plus  แนะนำหลัก ๆ ด้วยกัน 7 ขั้นตอนนะคะ ตั้งแต่การวิเคราะห์และตีโจทย์ของแบรนด์ให้เข้าใจ ,ศึกษากลยุทธ์ ธุรกิจคู่แข่ง, สร้างตัวตนให้แบรนด์ (Brand Identity), สร้างเป้าหมายกลุ่มลูกค้า, ออกแบบแบรนด์ (CI Branding ), สร้างคอนเท้นต์ และสร้างช่องทางบริการลูกค้า (Brand Channel) ซึ่งการสร้างแบรนด์ดูไม่ง่ายเลยใช่ไหมคะ การจะเป็นแบรนด์สินค้า หรือ แบรนด์บริการแบบให้ลูกค้าจดจำ สโลแกน แนวคิด บริการได้นั้น ทางแบรนด์ต้องมีการสร้างตัวตนให้แบรนด์อย่างชัดเจนด้วยนะคะ และเป็นการสื่อสารซ้ำ ๆ ใช้เวลาจนลูกค้าเกิดความเข้าใจ สนใจเอกลักษณ์ของแบรนด์ด้วย 

การสร้างแบรนด์ ตามขั้นตอนการสร้างแบรนด์นั้น จะต้องใช้เวลาและใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ที่ทางแบรนด์อยากสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้า เข้าใจกลุ่มลูกค้า เข้าใจกลุ่มตลาด และรู้ถึงวิธีการสื่อสารของแบรนด์ว่าอยากให้การสื่อสารของแบรนด์ไปในทิศทางรูปแบบไหนด้วยนะคะ

“แบรนด์ คือ ภาพลักษณ์ของธุรกิจ” การตลาดออนไลน์  ก็เปรียบเสมือนกลยุทธ์เข้าถึงลูกค้า หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญในการสร้างแบรนด์ธุรกิจ ทำแบรนด์ brandig เพื่อสร้างตัวตนของแบรนด์ สะกดสายตาลูกค้า เพื่อจะได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างหลายหลากมากขึ้น ซึ่ง SME D Plus เรามาพร้อมบริการที่ตอบโจทย์เพื่อช่วยสร้างแบรนด์ ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ SME D+