ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ (Branding) ก่อนอื่นเลย เพราะอะไรธุรกิจควรสร้างแบรนด์ เพราะ “แบรนด์” ถูกสร้างบนความรู้สึก สินค้าและบริการสร้างบนเหตุผล ประโยคนี้สะท้อนให้เห็นมุมมองทางการตลาด หรือ การทำการตลาดออนไลน์อย่างเห็นได้ชัดเลยนะคะ ซึ่งสินค้าและบริการทุกแบรนด์นั้น ต่างมีเหตุผล มีจุดขายที่ต่างกัน เพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้า จนเกิดความต้องการซื้อสินค้า
เช่นเดียวกันกับการสร้างแบรนด์ในการทำการตลาดออนไลน์ ต้องทำให้สินค้าและบริการเป็นที่จดจำของลูกค้าให้ได้ และก็ต้องมีภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่เป็นเอกลักษณ์ มีแนวคิด สโลแกน ที่สื่อสารไปยังลูกค้า และลูกค้าจดจำได้ทันที เมื่อมองเห็นโลโก้ ชื่อแบรนด์ ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ที่แบรนด์ต้องการนำเสนอด้วยนะคะ ซึ่งผ่านขั้นตอนการสร้างแบรนด์
วันนี้ SME D Plus พร้อมมอบความรู้เกี่ยวกับ ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ (Branding) ธุรกิจออนไลน์ให้ปังกว่าเดิม! มาฝากกันถึง 7 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ (Branding) จะมีขั้นตอนอะไรบ้างนั้น สามารถอ่านเพิ่มเติมในบทความนี้ได้เลยนะคะ
7 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ (Branding)
การสร้างแบรนด์ (Branding) ถือเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่สำคัญต่อการทำการตลาดออนไลน์ด้วยเช่นกันนะคะ ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ซึ่งการสร้างแบรนด์ก็เพื่อ สื่อสารแบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของลูกค้า จนสามารถกระตุ้นความสนใจ จนในที่สุดลูกค้าก็ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการของแบรนด์ หลัก ๆ มี การสร้างแบรนด์มีด้วยกัน 7 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์
- ตั้งเป้าหมายและตีโจทย์ของแบรนด์ให้ชัดเจน (Mission)
- ศึกษากลยุทธ์ ธุรกิจคู่แข่ง (Competitive Strategies)
- สร้างตัวตนให้แบรนด์ (Brand Identity)
- สร้างกลุ่มเป้าหมายลูกค้า (Target Customer)
- ออกแบบแบรนด์ (CI Branding)
- สร้างคอนเท้นต์ (Content Marketing)
- สร้างช่องทางบริการลูกค้า (Brand Channel)
ตั้งเป้าหมายและตีโจทย์ของแบรนด์ให้ชัดเจน (Mission)
ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 1 : การสร้างแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์เพื่อสินค้า แบรนด์เพื่อบริการ หรือเพื่อในการทำการตลาดออนไลน์ด้วยนั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ วางเป้าหมายแบรนด์ให้ชัดเจน พร้อมสื่อสารให้กลุ่มลูกค้ารับรู้ มีจุดเด่นอะไรบ้าง ทำให้ลูกค้านึกถึงแบรนด์ แตกต่างจากธุรกิจคู่แข่งรึยัง และต้องตีโจทย์ของแบรนด์ให้แตกด้วย เพื่อการสร้างแบรนด์จะได้ไปในทางเดียวกันและตรงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะต้องตอบโจทย์แบรนด์ของธุรกิจให้ได้ด้วยนะคะ
ในส่วนของเจ้าของธุรกิจ จะต้องตีโจทย์ให้แตก! อย่างเช่นหัวข้อต่อไปนี้นะคะ
- ทำไมถึงเลือกทำธุรกิจนี้
- เป้าหมายของธุรกิจคืออะไร
- จุดขายของธุรกิจคืออะไร
- จุดอ่อนของธุรกิจ คืออะไร
- คู่แข่งขันในตลาดของกลุ่มธุรกิจ
- กลุ่มลูกค้า คือใครบ้าง
- ธุรกิจจะเข้าถึงลูกค้าช่องทางไหนได้บ้าง
ศึกษากลยุทธ์ ธุรกิจคู่แข่ง (Competitive Strategies)
ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 2 : การสร้างแบรนด์ ต้องผ่านการวิเคราะห์ วางแผน รวบรวมข้อมูลของกลุ่มลูกค้ามาแล้วด้วยนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ศึกษาข้อมูลหรือกลยุทธ์ของธุรกิจคู่แข่ง ซึ่งจำเป็นอย่างมากในการสร้างแบรนด์ และเป็นอีกหนึ่งวิธีในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ที่ธุรกิจใดก็ตามที่ต้องการสร้างแบรนด์ จะต้องศึกษากลยุทธ์ธุรกิจคู่แข่งด้วยนะคะ
ดังสุภาษิตไทยที่ว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” เช่นกันกับในกลุ่มธุรกิจซึ่งการทำการตลาดออนไลน์ ธุรกิจที่อยากสร้างแบรนด์ ก็ต้องศึกษากลยุทธ์การขาย ผลิตภัณฑ์แบรนด์ การวางแบรนด์ กลุ่มลูกค้า โปรโมชั่นต่าง ๆ ของคู่แข่ง เพื่อนำมาพัฒนากลยุทธ์ของแบรนด์ สร้างจุดขายที่แตกต่างจากคู่แข่ง และนำ SWOT Analysis ช่วยวางแผนให้กับเป้าหมายของแบรนด์ได้อีกด้วยนะคะ ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ซึ่งช่วยวิเคราะห์ด้านจุดแข็ง, จุดอ่อน, โอกาส และอุปสรรคของธุรกิจ
ตัวอย่าง การใช้กลยุทธ์ SWOT Analysis มาปรับใช้ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์
- จุดแข็ง (Strengths) : สำเร็จรูป,ไม่เสียเวลา,ความเสี่ยงต่ำ
- จุดอ่อน (Weaknesses) : คาดเดากำไรไม่ได้,ลงทุนมาก,ขาดอิสระ
- โอกาส (Opportunity) : ความเชื่อมั่นของนักลงทุน, การขยายไปต่างจังหวัด, การขยายไปต่างประเทศ
- อุปสรรค (Threats) : การแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้น, บริษัทแม่ดูแลไม่ทั่วถึง, คิดว่าประสบความสำเร็จแล้ว
สร้างตัวตนให้แบรนด์ (Band Identity)
ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 3 : ตัวตนของแบรนด์ เปรียบเสมือนจุดขาย ที่แบรนด์มอบให้ลูกค้าเพื่อสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์ของธุรกิจคุณได้นะคะ แบรนด์ที่ดีมีบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น ซึ่งอาจจะจดจำแบรนด์ผ่านจาก ชื่อแบรนด์, LoGo, Packaging, หรือ สโลแกน และกิจกรรมทางสังคม (CSR) นะคะ
ซึ่งในการทำการตลาดออนไลน์ การสร้างตัวตนให้แบรนด์ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพราะถ้าลูกค้าจดจำบุคลิก เอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ ไม่ว่าจะเป็นบริการขาย ในช่องทางออฟไลน์ (offline) ออนไลน์ (Online) หรือวางขายในห้างสรรพสินค้า จะช่วยให้ลูกค้าเกิดความสนใจและนึกถึงเลือกใช้สินค้าหรือบริการของแบรนด์ก่อน ตัวอย่างเช่น
Logo : ซอสปรุงอาหาร มีรูปเด็กแก้มยุ้ย ลูกค้าก็จะนึกถึงแบรนด์ ตราเด็กสมบูรณ์
สโลแกน : ผู้หญิงอย่าหยุดสวย แบรนด์ Oriental Princess
ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 3 : สร้างตัวตนแบรนด์ ผ่านอะไรได้บ้าง ?
- ตราสินค้า หรือ Logo
- โทนสีของแบรนด์
- ลักษณะบรรจุภัณฑ์ (Packaging)
- สโลแกน (Slogan)
- ลักษณะบริการ (Service)
- บรรยากาศภายในร้าน
- สินค้าของแบรนด์
- เป้าหมายแบรนด์ (Brand Value)
สร้างกลุ่มลูกค้า (Target Customer)
ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 4 : “มีวันนี้ไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า” ประโยคนี้อาจพบเห็นได้เมื่อแต่ละแบรนด์ธุรกิจขอบคุณลูกค้าที่เลือกใช้บริการ ซึ่งสิ่งนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่า การวางเป้าหมายกลุ่มลูกค้าที่ตรงกับสินค้าหรือบริการของแบรนด์ อย่างชัดเจนก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ต่อธุรกิจ
ในการทำการตลาดออนไลน์ แบรนด์ก็คือตัวตนของธุรกิจคุณ พร้อมจะสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าที่สนใจในบริการของแบรนด์ ยิ่งแบรนด์สินค้าตรงกับความต้องการสินค้าของกลุ่มลูกค้ามากเท่าไหร่ ธุรกิจของคุณก็จะอยู่เหนือกว่าคู่แข่งอย่างแน่นอนนะคะ
วิธีสร้างกลุ่มเป้าหมาย (Target Customer)
เพิ่มการรู้จักกลุ่มเป้าหมายลูกค้าและเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า ซึ่งสามารถสร้างกลุ่มลูกค้า ได้ตามข้อมูลด้านล่าง
- ประเภทของแบรนด์สินค้า
- ช่วงอายุ (วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน วัยกลางคน และผู้สูงอายุ)
- เชื้อชาติ
- รายได้ต่อกำลังซื้อของลูกค้า ( วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน วัยกลางคน และผู้สูงอายุ )
- พฤติกรรม (สั่งซื้อออนไลน์, ชอบดูรีวิวสินค้าก่อนซื้อ)
- ความสนใจ (กีฬา, ฟิตเนส, เสื้อผ้า)
- สถานที่/พื้นที่ (อำเภอ,สถานที่ใกล้แหล่งท่องเที่ยว )
- ช่องทางสื่อสาร (Social Media : Facebook , Line OA, Tiktok)
ซึ่งในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ การสร้างกลุ่มเป้าหมายนั้น สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดนะคะ อาจตามเทรน และความสนใจในสถานการณ์นั้น ๆ ด้วยนะคะ แล้วก็ขึ้นอยู่ข้อมูลด้านต่าง ๆ อย่างเช่น ความสนใจ สถานที่ ช่องทางการรับข้อมูลของกลุ่มลูกค้าด้วยนะคะ
ออกแบบแบรนด์ (CI Branding )
ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 5 :การออกแบบแบรนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งวิธีในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ด้วยเช่นกันนะคะ ก่อนอื่นเลย Brand CI คืออะไร การสร้างแบรนด์หลัก ๆ จะมีองค์ประกอบอยู่ด้วยกัน 2 ส่วนนะคะ
ส่วนที่ 1 Brand Concept
เปรียบเสมือน แนวคิดของแบรนด์ เรื่องราว รวมไปถึงจุดเด่นต่าง ๆ ที่แบรนด์อยากนำเสนอ แบรนด์ต้องการสื่ออะไรบ้าง เพื่อให้ลูกค้ารับรู้
ส่วนที่ 2 Brand Design
การออกแบบแบรนด์ จะต้องสื่อสารตัวตนของแบรนด์ได้ เพื่อให้จดจำในสายตาของลูกค้าได้นะคะ ซึ่งในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ (Branding) และการออกแบบแบรนด์เริ่มออกแบบตั้งแต่
1.โลโก้ (Logo)
- ลักษณะโลโก้ที่สามารถใช้ได้ ทั้งแบบสี แบบโมโนเทน
- ขนาดของโลโก้ นำไปปประกอบงานออกแบบอื่น ๆ ได้ด้วย
- สีพื้นหลังโลโก้
2.การเลือกใช้ฟ้อนต์ (Font) ประจำเบรนด์
- Font เหมาะกับประเภทธุรกิจ
- เลือก Font เหมาะกับแนวคิดของแบรนด์และบุคลิกแบรนด์
- Font ควรมี 2 ภาษา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ สามารถนำไปใช้ในงานอาร์ต ที่ต้องมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เช่น ใช้ในเว็บไซต์ โบรชัวร์ โปสเตอร์
- Font ควรมีทั้งตัวหนา และ ตัวบาง เพื่อใช้สำหรับ Headline/Title เลือกฟ้อนต์ที่สื่อความเป็นแบรนด์ ดึงดูด สะกดสายตาลูกค้าได้ และที่สำคัญไม่ซ้ำกับโลโก้แบรนด์อื่น ๆ ด้วยนะคะ
3.อารมณ์และความรู้สึกของแบรนด์ (Mood & Tone)
ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ Mood & Tone ช่วยสื่ออารมณ์ ความรู้สึก ของลูกค้าเมื่อได้สัมผัสกับแบรนด์ และจะต้องไปในทิศทางเดียวกันในทุกช่องทางการตลาดด้วยนะคะ เช่น แบรนด์มีความสุภาพ ความสุข ความร่าเริง ความเป็นธรรมชาติ ความเป็นนวัตกรรม
4.การเลือกใช้ธีมสี สีประจำแบรนด์
การเลือกใช้ธีมสี โทนสี ประจำแบรนด์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ เพราะส่งผลโดยตรงต่อแบรนด์ ทั้งอารมณ์ ความรู้สึก ความน่าเชื่อถือ และสื่อถึงสินค้าของแบรนด์ด้วย ช่วยให้ลูกค้ารับรู้ได้ทันทีว่า แบรนด์ขายสินค้าอะไร และมีบริการแบบไหนด้วยนะคะ
ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ : ตัวอย่างธีมสี โทนสีแบรนด์
- สีม่วง (Purple) : สินค้างานศิลปะ สื่อความเป็นผู้หญิง ศิลปิน ความหรูหรา
- สีน้ำเงิน (Navy) : สินค้างานออกแบบ สื่อความแข็งแรง ความสร้างสรรค์
- สีฟ้า (Blue) : สินค้าแบบท่องเที่ยว สื่อความรู้สึกฉลาดหลักแหลม ผ่อนคลาย
- สีส้ม (Orange) : สินค้าแบบอาหาร สื่อความรู้สึกกระตือรือล้น ความสนุกสนาน
- สีเหลือง (Yellow) : สินค้าแบบแม่และเด็ก สื่อความรู้สึกกระตือรือล้น ความสนุกสนาน
- สีชมพู (Pink) : สินค้าแบบบิวตี้ สื่อความรู้สึกอ่อนหวาน ความอ่อนโยน
- สีเขียว (Green) : สินค้าแบบสุขภาพ สื่อความรู้สึกธรรมชาติ สดชื่น ความบริสุทธิ์
5. ลายกราฟิกประจำแบรนด์
ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ลายกราฟิกแบรนด์ เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งช่วยให้ดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้นะคะ แล้วในเมื่อแบรนด์มี ธีมสี หรือ ฟ้อนต์อยู่แล้วนั้น ทำไมในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ถึงต้องมีลายกราฟฟิกประจำแบรนด์ด้วยใช่ไหมคะ?
เพราะการเลือกใช้ธีมสี หรือ ฟ้อนต์ของแต่ละแบรนด์ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ นั้น อาจมีความคล้ายคลึงกัน และไม่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ฉะนั้นการทำการตลาดออนไลน์การมีลายกราฟิกประจำแบรนด์ ก็จะช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ จุดเด่นให้กับแบรนด์ซึ่งเพื่มการจดจำในสายตาลูกค้ามากยิ่งขึ้นด้วยนะคะ
สร้างคอนเท้นต์ (Content Marketing)
ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 6 : การสร้างแบรนด์ สิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปด้วยก็คือ การทำการตลาดคอนเท้นต์ (Content Marketing) การสร้างคอนเท้นต์ ก็เปรียบเสมือนบทความหรือข่าวสาร โปรโมทชั่นต่าง ๆ ที่ทางแบรนด์ต้องการสื่อสารให้ลูกค้ารับรู้แบรนด์
ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ โดยแนวทางการสร้างคอนเท้นต์ : มีรูปแแบบที่เป็นประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมาย มีคุณค่ากับสังคม ไม่เน้นขายสินค้า แต่เน้นสร้างคุณค่าแบรนด์ให้กับสินค้า ซึ่งการสร้างคอนเท้นต์ และเลือกลงคอนเท้นต์ Platform ที่เหมาะสมด้วยนะคะ
ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ตัวอย่างการสร้างคอนเท้นต์ เลือก Platform ที่เหมาะสม
- บล็อกแบ่งบันข่าวสาร ความรู้ต่าง ๆ Story ของแบรนด์ ควรนำเสนอลงใน Platform รูปแบบเว็บไซต์ , Google My Business
- โปรโมทสินค้า อัพเดทสินค้า หรือบริการใหม่ ๆ ควรนำเสนอลงใน Platform รูปแบบ Social Media เช่น Line OA, Instagram, Facebook Page
- สร้างกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับแบรนด์ ช่วยเพิ่มความสนใจของแบรนด์ ควรนำเสนอลงใน Platform รูปแบบ Social Media เช่น Line OA, Facebook Page
ซึ่งการสร้างคอนเท้นต์ ผ่านการทำการตลาดออนไลน์ด้วยนั้น ในทุก Platform ต้องรักษาแนวคิดของแบรนด์ (Brand Concept) เพื่อสร้างรูปแบบการสื่อสารที่มีทิศทางไปในแนวเดียวกันด้วยนะคะ สร้างอารมณ์ร่วม กระตุ้นการมีส่วนรวมกับลูกค้า และสร้างการรับรู้ สินค้า โปรโมทชั่น และบริการต่าง ๆ ร่วมทั้งลูกค้าสามารถปรึกษาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบรนด์ได้ด้วยนะคะ
สร้างช่องทางใหักับแบรนด์ เพื่อบริการลูกค้า (Brand Channel)
ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ขั้นที่ 7 : เมื่อเริ่มสร้างแบรนด์ สร้างตัวตนของแบรนด์ สร้างกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์แล้วนั้น อีกหนึ่งในขั้นตอนการสร้างแบรนด์ ก็คือ สร้างช่องทางบริการลูกค้าหรือสร้างช่องทางขายไปยังกลุ่มลูกค้า ซึ่งจะต้องเลือกใช้ ช่องทาง หรือ Platform ที่ต้องตามกลุ่มเป้าหมาย และกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ต้องใช้บริการช่องทางนั้นด้วยนะคะ ในขั้นตอนการสร้างแบรนด์
ตัวอย่างช่องทางสร้างแบรนด์ ด้วยการทำการตลาดออนไลน์
Own Media – ช่องทางนำเสนอบริการที่ลูกค้า
- เว็บไซต์
- Facebook Fanpage, Instagram
- TikTok
- Google Business Profile
- Google Map SEO (Local SEO)
สรุป 7 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ Branding ธุรกิจออนไลน์ให้ปังกว่าเดิม!
ขั้นตอนในการสร้างแบรนด์ ในการทำการตลาดออนไลน์ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่ง SME D Plus แนะนำหลัก ๆ ด้วยกัน 7 ขั้นตอนนะคะ ตั้งแต่การวิเคราะห์และตีโจทย์ของแบรนด์ให้เข้าใจ ,ศึกษากลยุทธ์ ธุรกิจคู่แข่ง, สร้างตัวตนให้แบรนด์ (Brand Identity), สร้างเป้าหมายกลุ่มลูกค้า, ออกแบบแบรนด์ (CI Branding ), สร้างคอนเท้นต์ และสร้างช่องทางบริการลูกค้า (Brand Channel) ซึ่งการสร้างแบรนด์ดูไม่ง่ายเลยใช่ไหมคะ การจะเป็นแบรนด์สินค้า หรือ แบรนด์บริการแบบให้ลูกค้าจดจำ สโลแกน แนวคิด บริการได้นั้น ทางแบรนด์ต้องมีการสร้างตัวตนให้แบรนด์อย่างชัดเจนด้วยนะคะ และเป็นการสื่อสารซ้ำ ๆ ใช้เวลาจนลูกค้าเกิดความเข้าใจ สนใจเอกลักษณ์ของแบรนด์ด้วย
การสร้างแบรนด์ ตามขั้นตอนการสร้างแบรนด์นั้น จะต้องใช้เวลาและใส่ใจรายละเอียดต่าง ๆ ที่ทางแบรนด์อยากสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้า เข้าใจกลุ่มลูกค้า เข้าใจกลุ่มตลาด และรู้ถึงวิธีการสื่อสารของแบรนด์ว่าอยากให้การสื่อสารของแบรนด์ไปในทิศทางรูปแบบไหนด้วยนะคะ
“แบรนด์ คือ ภาพลักษณ์ของธุรกิจ” การตลาดออนไลน์ ก็เปรียบเสมือนกลยุทธ์เข้าถึงลูกค้า หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญในการสร้างแบรนด์ธุรกิจ ทำแบรนด์ brandig เพื่อสร้างตัวตนของแบรนด์ สะกดสายตาลูกค้า เพื่อจะได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างหลายหลากมากขึ้น ซึ่ง SME D Plus เรามาพร้อมบริการที่ตอบโจทย์เพื่อช่วยสร้างแบรนด์ ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ SME D+